อบรมเฉพาะทาง
หลักการและเหตุผล
การเปลี่ยนแปลงของโลกในทุกๆด้านอย่างรวดเร็วส่งผลกระทบต่อภาวะสุขภาพของประชากรทั่วโลก ประเทศไทยเราก็หลีกเลี่ยงไม่พ้น ไม่ว่าจะเป็นการเกิดเจ็บป่วย การระบาดของโรคติดต่อหรือการเกิดภยันตรายรุนแรงก็ตาม ล้วนแล้วแต่ทำให้ผู้ป่วยกลุ่มหนึ่งต้องเข้าสู่ระยะของการเจ็บป่วยวิกฤต โดยเฉพาะโลกยุคปัจจุบันมีจำนวนประชากรสูงอายุเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งผู้สูงอายุเหล่านี้ส่วนใหญ่มักมี โรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคไตเรื้อรัง โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง และโรคหัวใจล้มเหลว จะยิ่งทำให้มีความเสี่ยงต่อ การล้มเหลวของอวัยวะได้ง่ายขึ้น
การพยาบาลผู้ป่วยวิกฤตมีเป้าหมายสูงสุดคือการช่วยชีวิต (save life) ด้วยการเฝ้าระวังและส่งเสริมการทำงานของอวัยวะร่างกายให้กลับสู่สมดุลอย่างเร็วที่สุด การรอดชีวิตของผู้ป่วยอย่างมีคุณภาพจะต้องสามารถป้องกันการสูญเสียการทำหน้าที่ของอวัยวะต่างๆ (prevent organ dysfunctions) ได้ด้วย การดูแลจึงต้องมีการประเมิน ติดตามการตอบสนองของผู้ป่วยต่อการรักษาอย่างใกล้ชิด รวดเร็ว ถูกต้องอย่างต่อเนื่องโดยการใช้เครื่องมือ อุปกรณ์ เทคโนโลยีขั้นสูงทางการแพทย์ในการเฝ้าระวัง (bedside monitoring) มีการตัดสินทางคลินิกที่ต้องการการบูรณาการเหตุผลเชิงวิทยาศาสตร์ร่วมกับประสบการณ์การปฏิบัติ มีการผสมผสานการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงร่วมกับการดูแลที่เอื้ออาทรในความเป็นบุคคลของผู้ป่วย การพยาบาลผู้ป่วยวิกฤต (critical care nursing) เป็นสาขาการพยาบาลเฉพาะทางที่กำเนิดมาพร้อมๆกับสาขาเวชบำบัดวิกฤต (critical care medicine) ของแพทย์มานานกว่า 50 ปี เนื่องจากศาสตร์หรือองค์ความรู้ด้านการพยาบาลผู้ป่วยวิกฤตมีทั้งความลุ่มลึกและซับซ้อน ต้องบูรณาการความเป็นองค์รวมในการดูแลผู้ป่วยที่มีการเปลี่ยนแปลงที่คุกคามความปลอดภัยของชีวิต ดังนั้นความรู้และความเชี่ยวชาญในการพยาบาลผู้ป่วยวิกฤตจึงไม่สามารถบรรจุไว้ในหลักสูตรระดับปริญญาตรีที่จัดการศึกษาพยาบาลทั่วไปได้ พยาบาลที่ปฏิบัติงานในผู้ป่วยวิกฤตจึงต้องพัฒนาความรู้และทักษะเฉพาะทางเพิ่มเติมภายหลังการสำเร็จหลักสูตรขั้นพื้นฐานทางการพยาบาลอย่างต่อเนื่อง
คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ตระหนักถึงความสำคัญดังกล่าวจึงได้จัดหลักสูตรฝึกอบรมการพยาบาลเฉพาะทางสาขาการพยาบาลผู้ป่วยวิกฤตมาตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2545 - 2565 รวมเป็นระยะเวลาถึง 20 ปี รวมทั้งหมดมีจำนวนผู้เข้ารับการอบรม 17 รุ่นแล้วในการจัดอบรมครั้งนี้หลักสูตรได้รับการปรับปรุงโดยเพิ่มเติมเนื้อหาให้ครอบคลุม และมีความทันสมัยเพื่อให้มีความสอดคล้องกับความต้องการด้านสุขภาพของประชาชนและระบบสุขภาพของประเทศในปัจจุบัน ประกอบกับหลักฐานความรู้ใหม่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลาและเทคโนโลยีขั้นสูงในการรักษามีการเปลี่ยนแปลงไปค่อนข้างมาก หลักสูตรจึงมีจำนวนหน่วยกิตเพิ่มขึ้นเป็น 18 หน่วยกิต และใช้เวลาการอบรมเพิ่มขึ้นเป็น 18 สัปดาห์ เพื่อเป็นการพัฒนาศักยภาพบุคลากรพยาบาลให้มีประสิทธิภาพต่อไป
รุ่นที่ 18 : ระหว่างวันที่ 30 มกราคม - 4 มิถุนายน 2566 ณ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ด้วยมีผู้สนใจสมัครเข้ารับการอบรมหลักสูตรฝึกอบรมการพยาบาลเฉพาะทางสาขาการพยาบาลผู้ป่วยวิกฤต (ผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ) รุ่นที่ 18 เป็นจำนวนมาก คณะกรรมการบริหารหลักสูตรเล็งเห็นความจำเป็นและความต้องการของโรงพยาบาลและระบบบริการสุขภาพเป็นอย่างยิ่ง จึงได้ขยายจำนวนรุ่นขึ้นเป็นรุ่นที่ 19 อีก 1 รุ่น
รุ่นที่ 19 : ภาคทฤษฎี Online วันที่ 30 มกราคม - 2 เมษายน 2566 และภาคปฏิบัติ Onsite วันที่ 29 พฤษภาคม - 30 กรกฎาคม 2566
**ผู้ที่สมัครหลังจากวันที่ 23 พฤศจิกายน 2565 จะเป็นรุ่นที่ 19**
***(ขอความร่วมมือผู้สมัครทุกท่านตอบแบบสอบถาม คลิ๊ก)***
เปิดรับสมัครตั้งแต่บัดนี้ไปจนถึงวันที่ 21 ธันวาคม 2565
วัตถุประสงค์
เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับระบบสุขภาพ นโยบายระบบการบริการสุขภาพผู้ป่วยวิกฤต แนวคิดและหลักการพยาบาลในการเจ็บป่วยวิกฤตที่พบบ่อย การป้องกันภาวะแทรกซ้อนและเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ในผู้ป่วยวิกฤต มีความรู้เรื่องยาและเทคโนโลยีขั้นสูงที่ใช้ในการเจ็บป่วยวิกฤต ตลอดจนการช่วยชีวิตขั้นสูง มีทักษะในการประเมินภาวะสุขภาพขั้นสูงและการตัดสินทางคลินิกในผู้ป่วยวิกฤต สามารถวิเคราะห์พยาธิสรีรวิทยา ภาวะแทรกซ้อนของการเจ็บป่วยวิกฤต มีทักษะในการดูแลผู้ป่วยวิกฤตศัลยกรรม อายุรกรรมและผู้ป่วยวิกฤตเฉพาะโรค ตลอดจนมีการจัดการข้อมูลทางคลินิกและผลลัพธ์ทางการพยาบาลในผู้ป่วยวิกฤตได้
ผู้ผ่านการอบรมจะได้รับ
- หน่วยคะแนนการศึกษาต่อเนื่องสาขาการพยาบาลศาสตร์ (CNEU) จำนวน 50 หน่วยคะแนน
- ประกาศนียบัตรหลักสูตรการพยาบาลเฉพาะทางสาขาการพยาบาลผู้ป่วยวิกฤต (ผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ)
- บัตรแสดงการผ่านการอบรมหลักสูตรการช่วยชีวิตขั้นสูง (ACLS provider) จากคณะกรรมการมาตรฐานการช่วยชีวิต สมาคมแพทย์โรคหัวใจแห่งประเทศไทย
- ประสบการณ์การจัดการฐานข้อมูลผลลัพธ์ผู้ป่วยวิกฤต การสืบค้นข้อมูลสุขภาพจากฐานข้อมูล (Electronic Data Base) การเป็นผู้นำในการทำ Journal club
- หนังสือคู่มือการช่วยชีวิตขั้นสูง
- หนังสือประกอบการอบรมการพยาบาลเฉพาะทางสาขาการพยาบาลผู้ป่วยวิกฤต
- รับฟังบรรยายพิเศษจากแพทย์ผู้ทรงคุณวุฒิของสมาคมเวชบำบัดวิกฤต (Meet the Expert)
การจัดอบรม
- ภาคทฤษฎี 12 หน่วยกิต จัดการอบรมในรูปแบบ Online ผ่าน ระบบ Zoom Meeting (จะมีการให้คำแนะนำการเข้าระบบก่อนอบรม)
- ภาคปฏิบัติ 6 หน่วยกิต อบรม ณ แหล่งฝึกปฏิบัติ
กำหนดการรับสมัคร
- ปิดรับสมัคร วันที่ 21 ธันวาคม 2565
- ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ วันที่ 22 ธันวาคม 2565
- กำหนดสอบสัมภาษณ์ วันที่ 26-27 ธันวาคม 2565 (ทาง Zoom Meeting)
- ประกาศรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือก วันที่ 29 ธันวาคม 2565
- รายงานตัว ทางโทรศัพท์ เบอร์ 053-936074 ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2565 - 13 มกราคม 2566
- ชำระค่าลงทะเบียน 65,000 บาท ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2565 - 20 มกราคม 2566
ค่าลงทะเบียน
- ค่าลงทะเบียน คนละ 65,000 บาท (หกหมื่นห้าพันบาทถ้วน)
เอกสารประกอบการสมัคร
- ใบสมัครลงทะเบียนและสำเนาหลักฐานการโอนเงิน ค่าสมัครจำนวน 500 บาท
- สำเนาใบอนุญาตประกอบวิชาชีพการพยาบาลและผดุงครรภ์
- หนังสืออนุมัติให้ลาศึกษาต่อจากผู้บังคับบัญชา
โปรดส่งเอกสารประกอบการสมัครพร้อมกับชำระค่าสมัคร 500 บาท ตามวันเวลาที่กำหนด โดยชำระค่าลงทะเบียนผ่านบัญชีออมทรัพย์ธนาคารไทยพาณิชย์สาขาคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ชื่อบัญชี “ศูนย์บริการพยาบาล มหาวิทยาลัยเชียงใหม่” เลขที่บัญชี 566–4–12445-8
ช่องทางการส่งเอกสารประกอบการสมัคร
- สมัครออนไลน์ที่ www.cmu.to/nsc
- ทาง E-mail nsccmunews@gmail.com
- ทาง Line ID : NSCCMUลงทะเบียน/เบอร์ 081-9925828
- ทางไปรษณีย์ ถึง ศูนย์บริการพยาบาล คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 110/406 ถนนอินทวโรรส ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ 50200
- ทางโทรสาร หมายเลข 053-212629
***(ให้ระบุ หอผู้ป่วยที่ปฏิบัติงานในช่อง หมายเหตุทางระบบสมัคร Online)***
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
โทรศัพท์ : 053-936074, 053-949151, 081-9925828 โทรสาร : 053-212629 Email : nsccmunews@gmail.com Facebook : www.facebook.com/nsccmu